Autonomous Car อนาคตของโลกยานยนต์ที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

ต้องบอกเลยว่าวงการอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ปัจจุบันเราเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้ากันค่อนข้างจะเต็มตัวแล้ว บริบทที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของรถยนต์ก็เริ่มปรับตัวเพื่อรับกับเทรนด์รถใหม่แบบนี้มากขึ้น ตั้งแต่เรื่องของโรงงานผลิตตัวรถ อะไหล่รถ เรื่องของการทำประกันรถ ที่วันนี้ประกันรถยนต์ชั้น 1 หลาย ๆ บริษัทเริ่มมีการปรับแผนความคุ้มครองให้ครอบคลุมรถยนต์ประเภทนี้มากยิ่งขึ้น

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เรามักจะได้ยินตีคู่กันมาก็คือ เรื่องของรถยนต์ไร้คนขับ หรือ

Autonomous Car เป็นนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่น่าจับตา ซึ่งจริง ๆ แล้วในวันนี้ Aut

onomous Car ไม่ได้เป็นแค่นวัตกรรมแห่งอนาคตอีกต่อไปแล้ว เพราะรถยนต์แบบนี้กำลังเริ่มกลายเป็นปัจจุบัน เพียงแต่ยังไม่ได้เป็นการไร้คนขับอย่างสมบูรณ์เต็มร้อย แต่ก็จัดว่าเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้แบบอัตโนมัติแล้ว ลองมาดูทิศทางและเทคโนโลยีน่าสนใจที่ซ่อนอยู่ในรถยนต์แบบนี้กัน

ประกันรถยนต์ชั้น 1

Autonomous Car จะประกอบไปด้วยเทคโนโลยี 4 ด้าน

นับว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ถ้าเราจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้คนควบคุมบังคับมาเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เองแบบไร้คนขับ รถจะต้องมีความสามารถสูงมาก มีความอัจฉริยะมากพอที่จะมองเห็นและอ่านค่าสภาวะแวดล้อมรอบข้างอย่างแม่นยำ เพื่อทำให้การเดินทางไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย นั่นจึงทำให้โมเดลโครงสร้างของรถยนต์ไร้คนขับนั้นจำเป็นที่จะต้องประกอบไปด้วย เทคโนโลยีที่ครบทั้ง 4 ด้าน คือ

  1. Computer Vision: ก็เปรียบเสมือนส่วนที่เป็นตาของรถ ที่จะต้องคอยรับภาพของสภาวะแวดล้อมรอบข้าง เพื่อให้รับรู้ระยะใกล้-ไกลของตัวรถกับวัตถุต่าง ๆ ซึ่งสายตาของรถนี้จะทำงานผ่านกล้อง หรือเรดาร์นั่นเอง
  2. Deep Learning: เปรียบเสมือนส่วนสมองของรถยนต์ ที่จะใช้สำหรับการวิเคราะห์ประมวลผลในเชิงลึก เมื่อกล้องหรือเรดาร์รับภาพเข้ามา ก็จะต้องส่งต่อมาประมวลผลในส่วนนี้ เพื่อแยกแยะว่าอะไรเป็นวัตถุ รถเข้าใกล้หรืออยู่ในระยะอันตรายที่จะเฉี่ยวชนแค่ไหนอย่างไร
  3. Robotic: เปรียบเสมือนร่างกายและการเคลื่อนไหวของรถ เมื่อส่วนสมองของรถประมวลผลแล้วก็จะส่งมายังส่วนนี้เพื่อบังคับว่ารถควรจะขับเคลื่อนไปในทิศทางไหน ด้วยความเร็วแบบไหน
  4. Navigation: เปรียบเสมือนแผนที่ของรถ เป็นส่วนที่จะทำงานเชื่อมโยงกับผู้ใช้งานรถ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการเดินทางได้ว่าจุดหมายที่ต้องการจะไปคือที่ไหน ระบบจะสรุปภาพรวมของเส้นทาง ระยะทางและสภาพการจราจรให้ได้ทราบก่อนเดินทาง

เทคโนโลยีทั้ง 4 ด้านนี้จะต้องทำงานผสานกัน ถึงจะทำให้การขับขี่เดินทางปลอดภัยแบบไร้กังวล เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่แนวคิดอย่างเดียว แต่กำลังเกิดขึ้นจริง รถยนต์ที่มีความสามารถเช่นนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว เพียงแต่ยังอยู่ในระยะการทดสอบเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการทำงานที่ผิดพลาด แม้จะยังไม่สมบูรณ์แต่โอกาสที่จะนำมาใช้จริงบนท้องถนนก็เริ่มมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น

อุปสรรคและความท้าทายของรถยนต์ไร้คนขับ

ก็ต้องบอกว่าข้อจำกัดของ Autonomous Car ที่สมบูรณ์แบบนั้นยังมีอยู่เยอะมากจริง ๆ แค่เรื่องของความมั่นใจในความปลอดภัยก็เป็นโจทย์ใหญ่ที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ ยังมีเรื่องของข้อกฎหมายที่จะต้องกำกับควบคุมการใช้รถแบบนี้ ปัจจัยเรื่องของประกันภัย อย่างถ้ารถแบบนี้เกิดผิดพลาดเฉี่ยวชนขึ้นมาและมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ประกันจะต้องชดใช้ให้กับใคร จะรู้ได้อย่างไรว่าฝ่ายไหนผิดฝ่ายไหนถูก

เรื่องนี้ยังคงต้องดูกันต่อไปว่าผลสุดท้ายแล้วจะมีบทสรุปอย่างไร ถึงจะทำให้ Autonomous Car ที่สมบูรณ์แบบได้ออกใช้งานจริง ๆ แต่ในตอนนี้รถที่ใกล้เคียงกับความเป็น Autonomous Car นั้นเริ่มมีให้เห็นและออกมาวางจำหน่ายแล้ว อย่างรถ MG HS อย่างนี้เป็นต้น แม้จะยังไม่ใช่รถยนต์ไร้คนขับแต่ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ความสามารถใกล้เคียงไร้คนขับเข้าไปทุกที

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราคงจะพบความชัดเจนในเรื่องปัจจัยแวดล้อมทั้งเรื่องกฎหมายเรื่องของการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับ Autonomous Car มากขึ้นแน่นอน นี่เป็นอนาคตที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว